วันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

BH Cosmetics 88 Colors Palette Tropical Matte Eyeshadow พิกเม้นสีสวย แน่น คุ้ม ประทับใจ

วันนี้ยังเป็นของจากล็อตการฝากเพื่อนซื้อมาเช่นเดิมค่ะ หากมี eye primer 
แล้วจะไม่มี eyeshadow ก็ยังไงๆอยู่ใช่ไหมคะ? ว่าแล้วก็จัดแจงฝากซื้อไปอีกหนึ่งอย่าง 
แรงบันดาลใจที่อยากได้พาเล็ตของ BH Cosmetics มาครอบครองก็มาจาก
กูรูใน youtube เช่นเดิมค่ะ ถ้าสังเกตดีๆจะมี 2 แบรนด์ที่ผลิตภัณฑ์แทบจะเหมือนกันเปี๊ยบบเลย 
อีกเจ้าก็คือ Coastal Scents 

โดยส่วนตัวจิตใจเองเอียงไปทาง BH ค่ะ ถึงจะรู้ลึกๆว่ามันก็ผลิตมาจากที่เดียวกันเนี่ยแหละ 
การเอียนเอียงมาจากหน้าบ้าน website, การ shipping แล้วก็การจัดรายการส่วนลดพอดิบพอดี 
BH เลยได้ตังค์ไปค่ะ


อันนี้เป็นสภาพหีบห่อค่ะ ได้รับของไวประทับใจเพื่อนมาก อ่อ อันนี้ส่งไปที่แคนาดานะคะ ไม่ได้ส่งมาที่ไทย แต่เคยลองเสริชดูก็มีเพื่อนๆบางคนที่ให้ส่งมาไทยค่ะเพราะทางเวบจัดส่งทั่วโลกให้อยู่แล้ว แต่เรื่องภาษีนี่ต้องบอกว่าเป็นดวงใครดวงมันจริง บางคนก็รอดค่ะ ถ้าอยากลองวัดดวงกันดูแนะนำให้สั่งหลายๆชิ้นหรือหุ้นรวมกับเพื่อนนะคะ เพราะค่าส่งมาไทย ณ ตอนนี้อยู่ที่ $24.95 แพงกว่าผลิตภัณฑ์ซะอีก

หากได้เข้าไปแวะเวียนหน้าบ้านสวยๆของ BH cosmetics จะเห็นว่ามีพาเล็ตเยอะมาก แล้วยังแบ่งออกเป็นทั้งแบบชิมเมอร์ - ประกายวิ้งๆ กับแมตท์ - ด้านๆเนียนๆปกติ ส่วนตัวเป็นคนที่มีเนื้อตาเยอะค่ะ (หนังตายังอ้วนได้ง่ะ) แล้วผิวมันอีกนั่น เลยขอลากับเนื้อชิมเมอร์ละกัน
แต่จริงๆก็ใช้นะคะหากเป็นงานกลางคืน แต่นี่ด้วยบัดเจ็ทเงินที่จำกัดเลยต้องเลือก
หนูแมตท์เลยนอนใส่กล่องมาอย่างที่เห็น




สีที่เลือกเป็น Tropical Matte ค่ะ ที่เลือกเพราะเห็นว่ามีทั้งสีมืดๆให้ได้สโมกี้กัน สีกลางส้มๆ
น้ำตาลๆไว้ไปทำงาน และสีหลุดโลกที่ยังคิดไม่ออกว่าจะใช้ตอนไหน
(อย่างเหลืองสัปปะรดตรงหัวมุมนั่น) แต่คิดว่ามันสวยดีง่ะ

มาดูแว๊บแรกของการได้สัมผัสพาเล็ตจากแดนไกลค่ะ

Packaging 
แว๊ดดดดด.....เล็กกว่าที่คิดมากค่ะ คือเคยไปแต่งหน้ารับปริญญาแล้วเห็นพี่ช่างเค้ามีเป็นพาเล็ตใหญ่ๆสีเยอะๆเลยจิตนาการว่าต้องแบบนั้นแหละ จะเอามาวางงามๆที่โต๊ะเครื่องแป้งที่บ้าน แต่นี่แล้วยังไงกว้างแค่คืบเดียวเองคะ? จะว่าผิดหวังก็ไม่เชิงนะเพราะก็ดีใจว่าเป็นขนาดที่สามารถพกไปสวยต่างจังหวัดได้พอดิบพอดี แต่แอบงอนที่ว่าขายแพงเหมือนกันนะเนี่ย เพราะแต่ละหลุมสีก็
กระจิ๊บกระจ๊อยกันเหลือเกิน

เปิดออกมาก็มีกระจกพิฆาตอยู่หนึ่งบาน (ได้ชื่อนี้เพราะเป็นกระจกแบบขยายกว่าปกติค่ะ ตกใจหน้าตัวเองมากตอนเปิด) พร้อมกับไม้พายสองหัวสองชิ้นประดับเก๋ๆ โดยรวมเป็นพาเล็ตที่เบา
แบนดีค่ะ อ่อ ต้องบอกก่อนว่าหลังกล่องเขียนว่า Made in China นะคะ เคยเห็นใน youtube
ว่ามีคนไปจีนแล้วเจอแบบเดียวกันนี่เลยแต่ไม่ได้สกรีนแบรนด์ ซึ่งก็แน่นอนว่าจะถูกไปอีกพอสมควร อืม...อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนนะคะ

Product
กรี๊ดดดดดดดด กันอีกสักรอบ ตัวจริงสวยกว่าในรูปมากค่ะ สีที่ถ่ายออกมาจะดูโหดไปค่ะ ตัวจริงจะนวลเนียนกว่านี้ แล้วก็มีเซอร์ไพรสมาอีกดอกคือมีหลายหลุมสีเลยค่ะที่ชิมเมอร์ริ่งมาแต่ไกล แต่โดยส่วนตัวคิดว่าคุ้มนะคะ เพราะถ้าเป็นเนื้อแมตท์อย่างเดียวก็น่าเบื่อเหมือนกัน

มาถึงการเริ่มใช้ตัวผลิตภัณฑ์นะคะ ตอนเอาแปรงแปะๆไป เนื้อสีร่วนออกมาค่ะ แต่พอหลายๆรอบก็ไม่ร่วนกองออกมาแล้ว คุณภาพตรงนี้ขอให้ปานกลางค่ะ พอเอาสีลงที่เปลือกตาก็ประทับใจมากค่ะ เกลี่ยง่ายดี สีจะเบาลงไปจากสีที่โชว์ในหลุมนิดหน่อยไม่มากนัก สีแน่นใช้ได้เลยค่ะ


After Use
การทดลองเป็นวันเดียวกับที่ใช้ Urban Decay Eye Primer ค่ะ นับว่าเป็นวันทรหดน่าประลองกำลังพอควร หลังจากกลับมาส่องกระจกดู ประทับใจค่ะเมื่อเทียบกับของเดิมที่เคยใช้อยู่ แต่ยังไงก็ต้องให้เครดิตตัวอายส์ไพรเมอร์ด้วยที่ช่วยให้ติดทนอยู่นานขึ้น อ๊ะๆ มีข้อสังเกตนิดนึงค่ะว่า
สีเข้มน่ะยังติดทนเป๊ะอยู่ แต่สีอ่อนมีเลือนลางไปบ้างนะคะ

สรุปคือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ส่วนตัวคิดว่าคุ้มราคา มีหลายสีไว้ให้ได้ใช้ในหลายโอกาส

What it takes...
ตามเวบที่ยังไม่รวมราคาส่งมหาโหดจะอยู่ที่ $19.95 ค่ะ ซึ่งมีข้อตักเตือนว่าอย่าสั่งค่ะราคานี้ เพราะเท่าที่สังเกตจะมีการลดราคาทุกเดือน อย่างเดือนนี้ฉลองวันชาติอเมริกาก็ลดไปอีก 20% ยังไงอดใจรอกดสั่งตอนลดดีกว่าค่ะ

ที่ไทยก็มีหิ้วกันมาขายพอสมควรค่ะ ราคา (เท่าที่หาเจอ) จะอยู่ที่พันต้นๆขึ้นไป

แล้วเดี๋ยวจะมารีวิวเนื้อสีอย่างละเอียดอีกทีนะคะ

วันพุธที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

Urban Decay: Eyeshadow Primer Potion โฉมใหม่เพื่อความสวยที่นานยิ่งขึ้น


ขอเปิดบล็อคกับไพร์เมอร์ในลุกส์โดนๆของ Urban Decay กันนะคะ
ตั้งแต่เกิดมาเนี่ยยังไม่มีเคยมีอายส์ ไพร์เมอร์ใช้มาก่อน
จนกระทั่งดูการรีวิวของกูรูต่างๆใน youtube เลยเกิดอยากเป็นเจ้าของขึ้นมาบ้าง
และด้วยจังหวะเวลาที่เพื่อนร่วมแก๊งค์กำลังจะกลับจากอเมริกาจึงไม่รอช้าฝากซื้อมาให้ยลโฉมกัน

ต้องบอกก่อนว่าอันที่ได้มาเป็นแพคเกจจิ้งแบบใหม่
(อาจเปลี่ยนมาสักพักแล้ว แต่โดยส่วนตัวเพิ่งรู้ตอนได้ของจริงๆ)
ตอนแรกก็กังวลเพราะแบบเก่านั้นเป็นการ "จิ้มจุ่ม" ซึ่งมีหลายเสียงรีวิวว่า
กว่าจะหมดขวดคงจะไม่ถูกสุขลักษณะเท่าที่ควรเพราะต้อง"จุ่ม"ขึ้นมาป้ายตา
แล้ว"จิ้ม"กลับเข้าไปในขวดนับสิบๆครั้ง พอชั่นแบบใหม่จึงเป็นการบีบที่นับว่าสะดวกขึ้นจริงๆ
แบบเก่า "จิ้มจุ่ม"
Packaging
ค่ะ พอของมาถึงมือก็ขอทดลองเลยแล้วกัน อย่างที่บอกว่าแพคเกจจิ้งปรับปรุงดีขึ้นแล้ว
แต่มากไปกว่านั้นคือการเปิดกล่องออกที่ยากมากๆ ซึ่งเป็นข้อดีที่ให้เพื่อนๆ
สามารถสังเกตได้ว่าเป็นของใหม่จริงๆไม่ได้ถูกเปิดใช้ก่อนหรือเอาของเก่ามาเล่าใหม่ 
หลอดแบบใหม่ก็นุ่มนิ่มค่ะ ไม่เป็นขวดแข็งๆ เพราะฉะนั้นเห็นชะตาอนาคตเลยว่า 
ต้องถูกผ่าปาดออกใช้ได้หมดจนหยดสุดท้ายอย่างแน่นอน อิอิ

Product
เนื้อผลิตภัณฑ์เกลี่ยง่ายตามที่ประกาศสรรพคุณไว้จริงๆค่ะ ใช้ไม่เยอะเลยก็เกลี่ยเต็มตาแล้ว
แห้งไวพอประมาณ มาถึงเรื่องสี โดยส่วนตัวคิดว่าสาวเอเชียที่ไม่ได้ tan จัดๆ หรือขาวหยวกๆ
สามารถใช้สีขวดม่วงหรือสี original นี้ได้สบายๆเลยค่ะ 
ตอนนี้มี 4 สีที่ออกมาค่ะคือ Eden, Greed, Original, Sin ลองเช็คสีที่ชอบดูที่ 

After Use
วันที่ได้ลองใช้ไพรเมอร์ตัวนี้มีธุระต้องออกไปข้างนอกพอดี แล้วเหมือนโชคชะตาเข้าข้าง
แดดส่องร้อนจัดมาก ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือต้องเดินไปค่ะ 
เลยไม่คิดว่าจะมีวันไหนที่เป็นการทดสอบที่ดีไปกว่านี้แล้ว อิอิ

ออกไปทำธุระประมาณหนึ่งชั่วโมงโดยไม่ได้อยู่ในห้องแอร์เลย พอกลับถึงที่พักก็จัดการส่องกระจกสำรวจ ผลคือประทับใจมากๆเมื่อเปรียบเทียบการที่ไม่ได้ใช้ไพรเมอร์ คืออายส์แชร์โดว์ยังติดอยู่และไม่มีเปลือกตามันๆเยิ้มๆแบบเก่าแต่อย่างใด ตัวอายส์ไพรเมอร์เองก็ไม่แห้งเป็นแป้งหรือเป็นเกาะเป็นร่อง

สรุปคือกรี๊ดมากๆ และเป็นไอเท็มที่แนะนำให้ลงทุนมีไว้ครอบครองค่ะ

What it takes...
ราคาเจ้าตัวนี้ (ขนาด 11ml) ตามเวบอยู่ที่ $19 
แต่ราคาที่รวมภาษีในรัฐที่เพื่อนซื้อมาจะอยู่ที่ $20.54 ค่ะ
ในเมืองไทยเท่าที่สำรวจมาจะเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 800 บาทขึ้นไป

อย่างไรก็ตาม หากยังเก็บเงินไม่ทันสอยมายลกันเร็วๆนี้ การใช้แป้งที่ทาเป็นประจำไปพัฟเบาๆบนเปลือกตาก็จะช่วยให้สีอายส์แชร์โดว์ติดทนนานขึ้นอีกนิดค่ะ